ปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ฝุ่น PM 2.5 นั้น ในปัจจุบันทวีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ฝุ่น PM2.5 นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศทั้งบดบังทัศนียภาพแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทยอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคเยื่อบุตาอักเสบ และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปอดอีกด้วย
ท่ามกลางวิกฤติมลพิษทางอากาศที่เป็นปัญหาระดับประเทศและยากจะแก้ไข เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้ลดความเสี่ยงที่จะได้รับมลพิษทางอากาศนี้ นอกจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้ว “การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ” เป็นหนึ่งทางเลือกที่ง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต้นไม้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศและปล่อยออกซิเจนบริสุทธิ์ แต่ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติพิเศษในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก กักเก็บสารพิษ และช่วยลดความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างต้นไม้ที่นิยมปลูกเพื่อฟอกอากาศ เช่น
– ต้นยางอินเดีย ต้นไม้ใบกว้างที่โดดเด่นเรื่องการดูดซับสารพิษในอากาศ เหมาะสำหรับการตกแต่งภายในบ้านให้มีสไตล์มินิมอล สามารถช่วยลดสารพิษประเภทฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) ได้ดี ดูแลง่ายเพียงเช็ดใบให้สะอาดและรดน้ำวันละครั้ง หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ดินแฉะเกินไปและควรตั้งในที่มีแสงแดดรำไร
– ต้นลิ้นมังกร ต้นไม้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการปล่อยออกซิเจนตอนกลางคืน ทำให้เหมาะสำหรับตั้งในห้องนอน สามารถดูดซับสารพิษประเภทเบนซีน (Benzene), ไตรคลอโรเอทิลีน (Trichloroethylene) และฟอร์มาลดีไฮด์ได้ดี ดูแลง่าย หากวางในร่มให้รดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าวางในที่มีแสงแดดอ่อนๆ ควรรดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
– ต้นเดหลี พืชที่มีความสามารถพิเศษในการดูดซับสารพิษ เช่น แอมโมเนีย (Ammonia), ไซลีน (Xylene) และฟอร์มาลดีไฮด์ ช่วยทำให้อากาศภายในห้องสะอาดขึ้น เหมาะสำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็ก ต้องการความชื้นปานกลาง ควรรดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และนำไปรับแสงแดดรำไรเป็นครั้งคราว
– ต้นมอนสเตอร่า ต้นไม้ฟอกอากาศที่มีใบขนาดใหญ่ ช่วยดักจับฝุ่นละอองในอากาศได้ดี และสามารถดูดซับสารพิษอย่างฟอร์มาลดีไฮด์และเบนซีนได้ถึง 60-70% เลี้ยงง่าย เพียงรดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด
– ต้นพูลทอง มีความสามารถในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 75% ในพื้นที่ปิด เหมาะสำหรับตั้งในห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศ สามารถเลี้ยงในน้ำได้ เพียงให้โดนแดดรำไร และเติมน้ำสะอาดอยู่เสมอ
– ไทรใบสัก เป็นต้นไม้ยอดนิยมที่ช่วยฟอกอากาศได้ดีพอๆ กับต้นยางอินเดีย มีความสามารถในการดักจับฝุ่นและลดสารพิษในอากาศ ดูแลง่ายเพียงหมั่นเช็ดใบให้สะอาดและรดน้ำอย่างเหมาะสม
– สาวน้อยประแป้ง พืชฟอกอากาศที่ช่วยกรองมลพิษภายในบ้านได้ดี สามารถลดสารพิษในอากาศ เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์และเบนซีนได้ มีความทนทานและต้องการน้ำไม่มาก ควรรดน้ำวันละครั้งและให้โดนแดดอ่อนๆ ยามเช้าเพื่อให้ใบมีสีสดขึ้น
– ต้นกระบองเพชร (Caribbean Tree Cactus) และแคคตัสสายพันธุ์อวบน้ำพืชที่สามารถดูดซับสารพิษในอากาศได้ดี โดยเฉพาะฟอร์มาลดีไฮด์และคาร์บอนไดออกไซด์ ต้องการแสงแดดจัด และรดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้ง เหมาะสำหรับวางไว้ในห้องทำงานหรือมุมที่มีแสงแดดเพียงพอ
การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เราลดความเสี่ยงที่จะได้รับมลพิษทางอากาศและยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับที่พักอาศัย นอกจากจะปลูกต้นไม้ฟอกอากาศแล้วควรใช้เครื่องฟอกอากาศควบคู่ไปด้วย เพื่อให้อากาศที่เราได้รับมีความบริสุทธิ์หรือมีมลพิษน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นการตั้งรับปรับตัวในช่วงวิกฤตสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สูงในปัจจุบัน

“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”

แหล่งที่มา :
– เทคโนโลยีชาวบ้าน, 8 ต้นไม้ฟอกอากาศ แต่งห้องสวยแถมช่วยกรองฝุ่น
– Areeya, 8 ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน นวัตกรรมธรรมชาติเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
– ไทยรัฐออนไลน์, 30 สุดยอดต้นไม้ฟอกอากาศ มีอะไรบ้าง