ดร.เฉลิมชัย นำขบวนรณรงค์ เที่ยวงานกาชาดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดใช้ Single-use plastic ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดร.พิรุณ สัยยสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหาร ทส. ร่วมขบวนเดินรณรงค์ เที่ยวงานกาชาดแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดใช้ Single-use plastic คัดแยกขยะก่อนทิ้ง เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ณ สวนลุมพินี กรุงเทพมหานคร
งานกาชาดประจำปี 2567 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 – 22 ธันวาคม 2567 ภายใต้แนวคิด“ทศมราชา 72 พรรษาถวายพระพร” โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ร่วมออกร้านกาชาด ภายใต้แนวคิด “ทศมราชา นทีชีวา ประชาร่มเย็น” อีกทั้งมีกิจกรรมภายในร้านกาชาด ทส. ที่น่าสนใจหลายกิจกรรม ทั้งการแสดงนิทรรศการโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รวม 21 โครงการ กิจกรรมให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีกิจกรรม“เกมบิงโกลดโลกเดือด” และ“เกมมองอนาคตลดโลกเดือด” เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม การคัดแยกขยะ กิจกรรมร่วมถ่ายภาพกับโมเดลน้องหมูเด้ง การแสดงจาก 20 มาสคอตของหน่วยงานในสังกัด ทส. การแสดงดนตรี ตลอดจนร่วมลุ้นรางวัลกับกิจกรรมสอยดาว รวมทั้งการแจกกล้าไม้และน้ำดื่ม “ฟรี” ตลอด 12 วัน 12 คืน
นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนประชาชนที่มาเที่ยวงานร่วมกันงดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastic) จำนวน 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ถุงพลาสติกหูหิ้ว (ถุงก๊อบแก๊บ) แก้วพลาสติกและหลอดพลาสติก และโฟมบรรจุอาหาร อีกทั้งเชิญชวนให้พกถุงผ้า กระบอกน้ำส่วนตัว และเดินทางมาเที่ยวงานโดยรถสาธารณะ เพื่อร่วมกันลดการสร้างขยะใหม่อันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งขอความร่วมมือจากหน่วยงาน ร้านค้า ต่างๆ และผู้มาเที่ยวงานร่วมกันคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ซึ่งภายในงานจะมีเจ้าหน้าที่ และจิตอาสา จากสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ให้คำแนะนำการคัดแยกขยะตามจุดต่างๆ โดยขยะที่มีการคัดแยกประเภทเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปกำจัดอย่างถูกวิธี ซึ่งการจัดการขยะในงานกาชาดจะสามารถนำไปเป็นโมเดลต้นแบบของงานมหกรรมรื่นเริงการกุศลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Fair) ให้กับงานอื่น ๆ ต่อไปด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
“ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน”